1 ก.พ. 2559

กระบวนการและจุดประสงค์

กระบวนการและจุดประสงค์

               เพื่อให้เด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาสได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงเพื่อให้การศึกษาในภาพรวมดีขึ้น ทางคณะผู้จัดทำจึงได้จัดสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบ video และโจทย์เพื่อฝึกประสบการณ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียนรู้อย่างสูงที่สุด
                การดำเนินงาน ทางคณะผู้จัดทำได้วางแผนการทำงานโดยเริ่มจากการแบ่งหน้าที่ วางแผนการถ่ายงานโดยงานต่างๆ ทางคณะผู้จัดทำได้รับคำปรึกษาจากอาจารย์วิชัย พริ้งมาดี เพื่อให้งานได้บรรลุ

วัตถุประสงค์
                       ด้านเนื้อหา ทางคณะผู้จัดทำได้แบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 ส่วนคือ พื้นฐานเรขาคณิต สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมและวงกลม



รายชื่อคณะผู้จัดทำ

รายชื่อคณะผู้จัดทำ

1.นายกรวิชญ์                       พุ่มวิวัฒนศิริกุล        เลขที่ 28 ห้อง 941
2.นายจิรภัทร                        อมรไพโรจน์            เลขที่ 29 ห้อง 941
3.นายธนวัต                          ตรีชิต                       เลขที่ 34 ห้อง 941
4.นายพลัฎฐ์                         กิจพงษ์ประพันธ์      เลขที่ 39 ห้อง 941
5.นายรณกร                          ศรีกิตตยากรณ์        เลขที่ 40 ห้อง 941

31 ม.ค. 2559

วงกลม

วงกลม

               วงกลม (Circle) เมื่อให้จุด ๆ หนึ่งเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ จุดคงที่จุดหนึ่งโดยจุดที่เคลื่อนที่และจุดคงที่นั้นมีระยะห่างเท่ากันเสมอ เส้นที่ได้จะเป็นเส้นโค้งเรียกว่าวงกลมหรือเส้นรอบวงถ้าลากเส้นตรงจากจุดใดจุดหนึ่งบนวงกลมให้ผ่านจุดศูนย์กลางไปพบวงกลมนั้นอีกข้างหนึ่งเราเรียกเส้นนั้นว่าเส้นผ่านศูนย์กลางดังนั้นเส้นผ่านศูนย์กลางมีความยาวเป็นสองเท่าของรัศมีของวงกลม

            ส่วนประกอบวงกลม
1.)  จุด O เป็นจุดคงที่ เรียกจุด O ว่าจุดศูนย์กลางของวงกลม
2.)  จุด A,B,C เป็นจุดบนเส้นรอบวงของวงกลม เรียนเส้นตรง OA , OB และ OC ว่า รัศมีของวงกลม
3.)  จุด C และจุด D เป็นจุดที่อยู่บนวงกลม และเส้นตรงCD ผ่านจุดศูนย์กลาง O เรียกเส้นตรง CD ว่า             เส้นผ่านศูนย์กลาง
4).  คอร์ด คือ เส้นตรงที่ลากจากเส้นรอบวงด้านหนึ่งไปยังเส้นรอบวงอีกด้านหนึ่ง คือ ED และคอร์ดที่         ยาวที่สุดคือเส้นผ่านศูนย์กลางและจะแบ่งวงกลมออกเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน
5.)   เซกเมนต์ คือ พื้นที่ที่อยู่ระหว่างเส้นรอบรูปกับคอร์ด
6.)   ส่วนของเส้นตรง OX เรียกว่า ระยะที่คอร์ดห่างจากจุด ศูนย์ กลางของวงกลม

ส่วนประกอบอื่นๆที่ควรจะทราบ
 ส่วนโค้ง
ส่วนโค้ง คือ ส่วนใดส่วนหนึ่งของเส้นรอบวงของวงกลม ถ้าเส้นรอบวงถูกแบ่ง ออกเป็น 2 ส่วนไม่เท่า   กันส่วนโค้งที่ยาว เรียกว่า ส่วนโค้งใหญ่ และ ส่วนโค้งที่สั้น เรียกว่า ส่วนโค้งน้อย

เส้นสัมผัสวงกลม 
คือ เส้นที่ตัดวงกลม เพียงจัดเดียวเท่านั้น

เส้นตรง CD เป็นเส้นสัมผัสวงกลม
จุด E เรียนว่าจุดสัมผัส
เส้นตรง AB ไม่ได้เป็นเส้นสัมผัสวงกลม

เส้นสัมผัสร่วม
เส้นสัมผัสร่วม คือ เส้นตรงที่สัมผัสวงกลมตั้งแต่สองวงขึ้นไป

การหาพื้นที่วงกลม

 พื้นที่วงกลม  =  p

ความยาวรอบรูปวงกลม

เส้นรอบรูปของวงกลม =   2pr

สามเหลี่ยม

รูปสามเหลี่ยม

                 รูปสามเหลี่ยม (อังกฤษ: triangle) เป็นหนึ่งในรูปร่างพื้นฐานในเรขาคณิต คือรูปหลายเหลี่ยมซึ่งมี 3 มุมหรือจุดยอด และมี 3 ด้านหรือขอบที่เป็นส่วนของเส้นตรง รูปสามเหลี่ยมที่มีจุดยอด AB, และ C เขียนแทนด้วย Trianglen.svgABCในเรขาคณิตแบบยุคลิด จุด 3 จุดใดๆที่ไม่อยู่ในเส้นตรงเดียวกัน จะสามารถสร้างรูปสามเหลี่ยมได้เพียงรูปเดียว และเป็นรูปที่อยู่บนระนาบเดียว (เช่นระนาบสองมิติ)

สูตรการหาพื้นที่สามเหลี่ยม = 1/2 x ฐาน x สูง
  • รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว (isosceles) มีด้านสองด้านยาวเท่ากัน (ตามความหมายเริ่มแรกโดยยุคลิด ถึงแม้ว่ารูปสามเหลี่ยมด้านเท่าจะสามารถจัดว่าเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วได้ด้วย) และมีมุมสองมุมขนาดเท่ากัน คือมุมที่ไม่ได้ประกอบด้วยด้านที่เท่ากันทั้งสอง 


  • รูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า (scalene) ด้านทุกด้านจะมีความยาวแตกต่างกัน มุมภายในก็มีขนาดแตกต่างกันด้วย

สี่เหลี่ยม

รูปสี่เหลี่ยม

                ในเรขาคณิตแบบยูคลิด รูปสี่เหลี่ยม คือรูปหลายเหลี่ยมที่มีด้านสี่ด้าน (หรือขอบ) และมุมสี่มุม (หรือจุดยอด)รูปสี่เหลี่ยมมีทั้งที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมอย่างง่าย (ไม่มีด้านที่ตัดกันเอง) และรูปสี่เหลี่ยมซับซ้อน (มีด้านที่ตัดกันเอง หรือเรียกว่ารูปสี่เหลี่ยมไขว้) รูปสี่เหลี่ยมอย่างง่ายอาจเป็นรูปสี่เหลี่ยมนูน (convex) หรือรูปสี่เหลี่ยมเว้า (concave) อย่างใดอย่างหนึ่งมุมภายในของรูปสี่เหลี่ยมอย่างง่ายรวมกันได้ 360 องศา ส่วนรูปสี่เหลี่ยมซับซ้อน เนื่องจากมุมภายในที่ด้านตรงข้ามเป็นมุมกลับ ทำให้รวมกันได้ 720 องศา รูปสี่เหลี่ยมนูนทุกรูปสามารถปูเต็มปริภูมิโดยการหมุนรอบจุดกึ่งกลางที่ด้านของมันรูปสี่เหลี่ยมต่างๆ
รูปสี่เหลี่ยมมีทั้งที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมอย่างง่าย (ไม่มีส่วนใดตัดกันเอง) และรูปสี่เหลี่ยมซับซ้อน (มีส่วนที่ตัดกันเอง) รูปสี่เหลี่ยมอย่างง่ายยังจำแนกได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมนูนและรูปสี่เหลี่ยมเว้า ซึ่งรูปสี่เหลี่ยมนูนนั้นยังจำแนกออกได้อีก ดังนี้

พื้นที่รูปสี่เหลี่ยม = (1/2) × เส้นทะแยงมุม × ผลบวกเส้นกิ่ง

ความยาวรอบรูป = a + b + c + d
พื้นที่รูปสี่เหลี่ยม = (1/2)  × ผลบวกด้านคู่ขนาน × สูง  = (1/2) × (a + c) × e


  • รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน : ด้านตรงข้ามขนานกันทั้งสองคู่ แสดงนัยว่าด้านตรงข้ามกันยาวเท่ากัน มุมตรงข้ามกันมีขนาดเท่ากัน และเส้นทแยงมุมทั้งสองเส้นจะตัดกันโดยแบ่งเส้นทแยงมุมอีกเส้นออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน
ความยาวรอบรูป = 2 × (a + b)
พื้นที่รูปสี่เหลี่ยม = ฐาน × สูง  = a × h


  • รูปสี่เหลี่ยมรูปว่าว : มีด้านประชิดกันยาวเท่ากันอยู่สองคู่ เราอนุมานได้ว่ามีมุมตรงข้ามกันหนึ่งคู่ที่มีขนาดเท่ากัน และเส้นทแยงมุมทั้งสองเส้นจะตัดกันเป็นมุมฉาก โดยเส้นทแยงมุมเส้นหนึ่งจะแบ่งเส้นทแยงมุมอีกเส้นออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน
พื้นที่รูปสี่เหลี่ยม = (1/2) × ผลคูณของเส้นทแยงมุม = (1/2) × a × h

  • รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หรือ รูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด : ด้านทั้งสี่ด้านยาวเท่ากัน ซึ่งแสดงเป็นนัยว่าด้านตรงข้ามกันขนานกัน มุมตรงข้ามกันมีขนาดเท่ากัน และเส้นทแยงมุมทั้งสองเส้น จะตัดกันเป็นมุมฉาก และแบ่งเส้นทแยงมุมอีกเส้นออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน

  • รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือ รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก : มุมทุกมุมเป็นมุมฉาก แสดงนัยว่าด้านตรงข้ามกันขนานกันและยาวเท่ากัน เส้นทแยงมุมทั้งสองเส้นยาวเท่ากัน และตัดกันโดยแบ่งเส้นทแยงมุมอีกเส้นออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน
ความยาวรอบรูป :  (กว้าง + ยาว) × 2
พื้นที่ :  กว้าง × ยาว


  • รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือ รูปสี่เหลี่ยมปรกติ : ด้านทั้งสี่ยาวเท่ากันและมุมทุกมุมเป็นมุมฉาก เราอนุมานได้ว่าด้านตรงข้ามกันขนานกัน เส้นทแยงมุมทั้งสองเส้นยาวเท่ากัน และตัดกันโดยแบ่งเส้นทแยงมุมอีกเส้นออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กันและเส้นทแยงมุกตัดกันเป็นมุมฉากตัดกันเป็นมุม
ความยาวรอบรูป :  ด้าน × 4                พื้นที่ : ด้าน  × ด้าน